รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ต BYD SEAL DRIVE INTO THE FUTURE ตอบโจทย์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ดีไซด์รูปลักษณ์ภายนอกของ BYD SEAL โดดเด่นด้วยการออกแบบจากศิลปะแห่งท้องทะเล เส้นสายโค้งโฉบเฉี่ยวลงตัว ตั้งแต่ภายนอกไฟหน้า แบบ Double-U Floating โค้งมาสอดรับกันไฟท้าย LED รูปหยดน้ำแบบ Sequential ที่โดดเด่นในทุกมิติ มาพร้อมการตกแต่งภายในที่ลํ้าสมัย และระบบป้องกันการหนีบอัจฉริยะ รวมถึงความสะดวกและปลอดภัยของผู้ขับขี่เป็นหลัก มั่นใจตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยี Blade Battery, e-Platform 3.0 และระบบอัจฉริยะที่จะมาเพิ่มความปลอดภัยหลังจากจอดรถ ให้คุณสัมผัสเทคโนโลยีขั้นสุดของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่แท้จริง

รถไฟฟ้า SEAL จากค่าย BYD เป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% ในปี 2023 นี้มีมาให้เลือกใช้ 3 รุ่น คือ Dynamic RWD , Premium RWD และ AWD Performance โดยทุกรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลัง แบบมอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร (PMSM : Permanent Magnet Synchronous Motor) และสำหรับรุ่น AWD Performance ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า แบบอะซิงโครนัสมอเตอร์ (Asynchronous Motor)

รุ่น Dynamic RWD มีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง (Rear-Wheel Drive : RWD) มีกำลังสูงสุด 201 แรงม้า (หรือ 150 กิโลวัตต์) , มีแรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร , มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง (Lock ความเร็ว) โดยสามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 510 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (NEDC Standard)

รุ่น Premium RWD มีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง (Rear-Wheel Drive : RWD) มีกำลังสูงสุด 308 แรงม้า (หรือ 230 กิโลวัตต์) , มีแรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร , มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง (Lock ความเร็ว) โดยสามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 650 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (NEDC Standard)

รุ่น AWD Performance มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (All-Wheel Drive : AWD) มีกำลังสูงสุด 523 แรงม้า (หรือ 390 กิโลวัตต์) , มีแรงบิดสูงสุด 670 นิวตัน-เมตร , มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง (Lock ความเร็ว) โดยสามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 580 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (NEDC Standard)

การชาร์จรถไฟฟ้า ทำได้โดยเสียบปลั๊กไฟบ้านทั่วไป หรือแท่นชาร์จสาธารณะ จะทำการเสียบปลั๊กผ่านสถานีชาร์จ ซึ่งความเร็วในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับสถานีชาร์จ และความจุแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้า โดยแบตเตอรี่ BYD SEAL เป็น BLADE BATTERY นวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เอกสิทธิเฉพาะของ BYD ให้ความปลอดภัยสูงสุด มั่นในในทุกการขับขี่

BYD SEAL รุ่น Dynamic RWD รองรับการชาร์จ ด้วยหัวแบบ Type 2 และ CCS Combo 2 , มีระบบการชาร์จไฟบ้านแบบกระแสสลับ (AC) 7 kW และรองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 110 kW โดยแบตเตอรี่ ที่ใช้เป็นแบบ BYD Blade Battery > Lithium-Ion Phosphate Battery (LFP) ขนาด 61.44 kWh ถ้าไฟเต็ม 100% ขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 510 กม.

BYD SEAL รุ่น Premium RWD รองรับการชาร์จ ด้วยหัวแบบ Type 2 และ CCS Combo 2 , มีระบบการชาร์จไฟบ้านแบบกระแสสลับ (AC) 7 kW และรองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 150 kW โดยแบตเตอรี่ ที่ใช้เป็นแบบ BYD Blade Battery > Lithium-Ion Phosphate Battery (LFP) ขนาด 82.56 kWh ถ้าไฟเต็ม 100% ขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 650 กม.

BYD SEAL รุ่น AWD Performance รองรับการชาร์จ ด้วยหัวแบบ Type 2 และ CCS Combo 2 , มีระบบการชาร์จไฟบ้านแบบกระแสสลับ (AC) 7 kW และรองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 150 kW โดยแบตเตอรี่ ที่ใช้เป็นแบบ BYD Blade Battery > Lithium-Ion Phosphate Battery (LFP) ขนาด 82.56 kWh ถ้าไฟเต็ม 100% ขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 580 กม.

มีระบบ V2L (Vehicle To Load) ซึ่งสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ถึง 2.2 kW (2,200 Watts) โดยสามารถจ่ายไฟจากแบตเตอรี่ จากภายในรถสู่ภายนอกได้ นั่นคือ ผู้ใช้ต้องการเสียบปลั๊ก หรือใช้ไฟจากแบตเตอรี่ภายในรถได้เลย เช่น การไปแคมปิ้ง กางเต๊นท์ พักค้างแรมในที่ต่างๆได้ดี โดยระบบ Vehicle to Load ระบบการจ่ายพลังงาน ที่ช่วยเติมความสมบูรณ์แบบในการใช้งานรถ EV ได้มากขึ้น

BYD SEAL สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ 2 แบบ คือ Normal Charge แบบ AC (ผ่านหัวชาร์จประเภท Type 2) และ Quick Charge แบบ DC (ผ่านหัวชาร์จประเภท CCS Combo 2) Normal Charge คือ การชาร์จไฟจากชุด HOME CHARGER ที่บ้าน กระแสสลับ AC (รองรับสูงสุด 7 kW) ใช้เวลาประมาณ 8.30 ชั่วโมง และ Quick Charge คือ การชาร์จไฟ กระแสตรง DC (BYD SEAL รุ่น Dynamic RWD รองรับสูงสุด 110 kW , BYD SEAL รุ่น Premium RWD และรุ่น AWD Performance รองรับสูงสุด 150 kW ) จาก 30-80% ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ทั้งนี้ระยะเวลาการชาร์จ ขึ้นอยู่กับประเภทของไฟฟ้า และอัตราค่าไฟฟ้าของแต่ละจุดชาร์จ) นอกจากนี้ BYD SEAL ยังสามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่โดยระบบเบรค (Regenerative Braking) เช่น จากการหน่วงเวลาถอนคันเร่ง หรือการเบรคได้อีกด้วย

BYD BLADE Battery นวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เอกสิทธิเฉพาะของ BYD ให้ความปลอดภัยสูงสุด มั่นในในทุกการขับขี่ คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด เพื่อมอบความสะดวกสบาย และความมั่นใจให้คุณตลอดการเดินทาง ออกแบบมาพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง คำนึงถึงการป้องกัน “แบตเตอรี่ (Battery)” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

แบตเตอรี่ มีความปลอดภัยสูงสุด แบตเตอรี่ของ BYD ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย Nail Penetration Test มั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยหากได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ด้วยรูปทรงเซลล์ของแบตเตอรี่ที่มีลักษณะคล้ายใบมีดวางเรียงตัวกันมากมาย จึงมีพื้นที่ว่างในการเพิ่มจํานวนเซลล์ให้มากขึ้นได้อีก เพื่อเพิ่มพลังงานให้มากยิ่งขึ้น

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน แบตเตอรี่ Blade Battery LFP (Lithium-Ion Phosphate Battery) จะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD เท่านั้น

ระบบการจัดการความร้อนอัจฉริยะ ระบบทําความร้อนและระบายความร้อนที่แบตเตอรี่โดยตรง (Direct Cooling and Direct Heating) เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ถึง 20% พร้อมลดการสูญเสียพลังงาน เสริมด้วยระบบปั้มความร้อน (Heat Pump System) ช่วยให้ทํางานได้ในช่วงอุณหภูมิที่กว้าง ตั้งแต่ -30 ถึง 60 องศาเซลเซียส ทนทานทุกสภาพอากาศ

CTB (Cell to Body) นวัตกรรมที่พัฒนาโดย BYD เพื่อยานยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งมีการออกแบบพื้นที่ และวิธีการวางแบตเตอรี่ที่คำนึงถึงความปลอดภัย ความแข็งแรง และความสมดุล ด้วยการรวมวัสดุทุกชิ้น ไว้ใน e-PLATFORM 3.0 เพียงชิ้นเดียว นั่นคือการใช้ Blade Battery ที่มีโครงสร้างแข็งแรงด้วยตัวเองอยู่แล้ว มาใช้รวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวถังรถไปเลย เพื่ออากาศพลศาสตร์ที่ดีกว่า และสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นของ BYD SEAL

“Drive into the Future” แนวคิดของ BYD SEAL รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์สปอร์ต ดีไซน์ที่สวยงาม ทันสมัย และลงตัว มาพร้อมเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มันสามารถขับขี่อย่างเต็มรูปแบบได้อย่างสนุกสนาน ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปแบบตัวรถแนวพรีเมี่ยมสปอร์ตซีดาน (Sport Sedan Design) หน้าตาทรงพลังด้วยชุดไฟหน้า แบบ Double-U Floating โค้งมาสอดรับกันไฟท้าย LED รูปหยดน้ำแบบ Sequential ออกแบบอย่างลงตัวลงตัวและที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทรงพลัง และเฉียบคม มาพร้อมกับล้ออัลลอยได้ทั้งขนาด 18 นิ้ว (รุ่น Dynamic RWD) และ 19 นิ้ว (รุ่น Premium RWD และรุ่น AWD Performance) ผสานกับเทคโนโลยีล้ำสมัยขั้นสุดของยานยนต์

The interior design of tomorrow กับ BYD SEAL.. ว้าวจริง.!! กับการออกแบบที่โดดเด่น ผสานความเรียบหรู ล้ำแห่งอนาคต สู่การออกแบบภายในที่ล้ำสมัยด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยว สัมผัสความพรีเมียมกับ CRYSTAL SHIFTER ที่โดดเด่น พร้อมเทคโนโลยีความบันเทิง และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดของ BYD กับมุมมองที่กว้างเกินใครของจอ MULTIFUNCTION ROTATABLE TOUCH SCREEN ขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ปรับหมุนด้วยไฟฟ้าได้ดั่งใจ เต็มอิ่มกับชุดลำโพงระดับพรีเมียมถึง 12 จุดจาก DYNAUDIO , หลังคา Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่พร้อมม่านกันแดด , พวงมาลัยมีฟังก์ชั่นหลากหลาย Multifunction , เบาะสปอร์ตดีไซน์ล้ำ เท่ไม่เหมือนใคร

ตารางภาพแบ่งรายละเอียด รุ่นและสี ของ BYD SEAL ที่จำหน่ายในประเทศไทย โดยในรุ่น Dynamic RWD , Premium RWD และ Performance AWD นั้น จะมีสีให้เลือกที่แตกต่างกัน เราได้สรุปไว้ในภาพให้เรียบร้อย เพื่อการเลือกสีให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรา

>> BYD SEAL รุ่น Dynamic RWD มี 2 สี ได้แก่ สีขาว (Horizon white) และ สีดำควอนตัม (Quantum Black)

>> BYD SEAL รุ่น Premium RWD มี 3 สี ได้แก่ สีเทา (Space Grey) , สีขาว (Horizon white) และ สีดำควอนตัม (Quantum Black)

>> BYD SEAL รุ่น Performance AWD มี 4 สี ได้แก่ สีฟ้า (Velocity blue) , สีเทา (Space Grey) , สีขาว (Horizon white) และ สีดำควอนตัม (Quantum Black)

ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะรอบคัน BYD SEAL ถูกพัฒนาให้มีความปลอดภัยในการขับขี่รอบด้านมาก และครบครันทั้ง 3 รุ่น คือ รุ่น Dynamic RWD , Premium RWD และรุ่น AWD Performance ซึ่งมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) ที่จะช่วยให้คุณตื่นตัว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยง ทำให้มีความปลอดภัยสูงสุดตลอดการเดินทาง

Eco sticker คือ ป้ายแสดงข้อมูลของรถยนต์ตามมาตรฐานสากล โดยกระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดแนวทางให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ และผู้นำเข้า ต้องติดป้ายแสดงการประหยัดพลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือ ECO Sticker โดยมีข้อกำหนดให้ค่ายรถยนต์ต้องติด ECO sticker บนกระจกรถยนต์ใหม่ทุกคันที่จำหน่ายในประเทศ เพื่อยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญของรถยนต์บนมาตรฐานเดียวกัน

ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า BYD จะต้องโหลด Application เพื่อเชื่อมต่อกับรถยนต์ไฟฟ้าของคุณ พื่อความสะดวกต่างๆ เช่น การตรวจสอบสถานะตัวรถ แบตเตอรี่ การชาร์จ การล็อก/ปลดล็อก การสั่งงานไร้สายระยะไกลโดยการสตาร์ตรถ เปิดแอร์ ลดกระจก/เปิดกระจก เป็นต้น

BYD มี Application 2 ตัวด้วยกัน นั่นก็คือ BYD Application และ Rever Automotive Application (สามารถใช้ได้ทั้งระบบ Android และ iOS) โดย Application ทั้งสองนั้น จะแบ่งแยกการทำงานอย่างชัดเจน คือ BYD Application จะใช้เหมือนกันทั่วโลก เน้นใช้ควบคุมตัวรถเป็นหลัก และ Rever Automotive Application จะเป็นเน้นใช้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น โดยมีข้อแตกต่างกันทางด้านการใช้งาน ดังนี้

• BYD Application
  จะใช้เหมือนกันทั่วโลก เน้นใช้ควบคุมตัวรถยนต์ไฟฟ้าในฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ เป็นหลัก เช่น
  >>  ควบคุมการเปิด/ปิด ประตูรถยนต์ไฟฟ้า (ล็อก/ปลดล็อก)
  >>  ควบคุมการเปิด/ปิด กระจกรถยนต์ไฟฟ้า (เลื่อนกระจกขึ้น/เลื่อนกระจกลง)
  >>  ควบคุมระบบปรับอากาศในรถยนต์ไฟฟ้า
  >>  ค้นหารถ (ใช้ในกรณีหารถไม่เจอในที่จอดรถ) จะแสดงเป็น ไฟแฟลช หรือเสียงบีบแตร
  >>  แสดงผล แบตเตอรี่คงเหลือ และระยะทางที่สามารถขับขี่ได้
  >>  แสดงผล การควบคุมการล็อกประตู และการควบคุมกระจก
  >>  แสดงผล แรงดันยาง (ลมยางทั้ง 4 ล้อว่าอยู่ในสภาพปกติหรือไม่)
  >>  ฯลฯ (อาจมีฟังก์ชั่นมากกว่านี้ ในอนาคต)
• Rever Automotive Application
  เน้นใช้งานเฉพาะลูกค้าในประเทศไทย โดยจะใช้อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า (เจ้าของรถ) ตลอดการเดินทาง เช่น
  >>  ค้นหาผู้แทนจำหน่าย หรือศูนย์บริการ BYD ในประเทศไทย
  >>  จองคิวเข้า Test drive BYD ทุกรุ่น
  >>  จองคิวเข้า นัดหมายการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ
  >>  ขอข้อมูล หรือรายละเอียดเกี่ยวกับการจองรถยนต์ไฟฟ้า BYD
  >>  ค้นหาตำแหน่งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
  >>  ติดต่อประกันภัย ผ่าน Application กรณีเกิดอุบัติเหตุ (ไม่จำเป็นต้องแจ้งเลขกรมธรรม์)
  >>  ติดต่อ Roadside Assistance กรณีมีเหตุฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือ (ตลอด 24 ชั่วโมง)
  >>  ฯลฯ (อาจมีฟังก์ชั่นมากกว่านี้ ในอนาคต)

ตารางแสดงการคำนวณยอดผ่อนเงินกู้รถไฟฟ้า EV แบบเงินต้นคงที่ (คิดดอกเบี้ยแบบ Flat Rate) โดยการคำนวณอัตราดอกเบี้ย จะคำนวณจากเกณฑ์มาตราฐานดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยทั่วไป ซึ่งราคาเงินผ่อนที่แสดงในตาราง สำหรับใช้ในการพิจารณาข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในการซื้อขายได้ ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่แต่ละบริษัทเป็นผู้กำหนด ผู้ซื้อสามารถสอบถามกับผู้ดูแลการขาย ณ ตอนซื้อขายนั้นๆ